วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

กติกาแฮนด์บอล


สนามเล่น
1. ขนาดของสนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดยาว 40 เมตร กว้าง 20 เมตร ด้านยาวเป็นสองเท่าของด้านข้าง (เส้นประตูด้านนอกรวมอยู่ในเส้นประตูด้วย) สนามเล่นแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยมีเส้นกึ่งกลาง (เส้นแบ่งแดน) ลากขนานกับเส้นประตูและมีเขตประตูทั้งสองด้าน
ข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดและผิวของสนามแข่งขัน จะต้องไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบกับทีมใดทีมหนึ่ง
หมายเหตุ เพื่อความปลอดภัยควรมีพื้นที่นอกสนามห่างจากอ่านเพิ่มเติม


ประวัติของกีฬาเเฮนด์บอล



กีฬาเเฮนด์บอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นในประเทศทางแถบยุโรปและอเมริกา เนื่องจากเป็นกีฬาที่เล่นสนุกเเละมีการดัดเเปลงวิธีการเล่นโดยอาศัยทักษะพื้นฐานของการเล่นฟุตบอลเเละบาสเกตบอลกีฬาแฮนด์บอลได้เริ่มต้นมาจากประเทศเยอรมัน (GERMAN) ในราวศตวรรษที่ 19 โดยครูสอนพลศึกษาชื่อ ดอนเเรด คอช (Donrad Koch) ซึ่งได้ดัดเเปลงวิธีการเล่นอาศัยทักษะพื้นฐานจากการเล่นฟุตบอลเเละบาสเกตบอล ระยะเเรกเรียกชื่อกีฬาแฮนด์บอลแตกต่างกันเช่น ฮอกกี้มือ โปโลบก เเละมีจำนวนผู้เล่นทีมละ 11 คนเหมือนฟุตบอล
ในอดีตประเทศยุโรปในฤดูหนาวไม่สามารถเล่นกีฬากลางแจ้งได้ จึงใช้ห้องพลศึกษาดัดแปลงเล่นกีฬาด้วยมือ ตอนแรกใช้ผู้เล่น 11 คนเท่ากับฟุตบอล แต่ไม่สะดวก เพราะสถานที่คับแคบ จึงลดจำนวนผู้เล่นเหลือข้างละ 7 คน จึงกลายมาเป็นกีฬาแฮนด์บอลแบบการเล่นในปัจจุบัน ในช่วงนั้นแฮนด์บอลมิได้ถือว่าเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง เพราะอ่านเพิ่มเติม

กติกาการเล่นกระบี่กระบอง


1. การถวายบังคม

        ในสมัยโบราณการแสดงการต่อสู้มักกระทำต่อหน้าที่ประทับ ผู้แสดงจึงต้องมีการถวายบังคมซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อพระเจ้าแผ่นดินด้วย  และต่อมาได้เป็นการปฏิบัติเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และผู้มีพระคุณ การถวายบังคมนี้จะกระทำ 3 ครั้ง แต่ละครั้งมีความหมายดังนี้

         ครั้งที่ 1 หมายถึง การแสดงความเคารพต่อหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระศาสดา
         ครั้งที่ 2 หมายถึง การแสดงความเคารพต่อองค์พระประมุขของชาติ
         ครั้งที่ 3 หมายถึง การแสดงความเคารพต่อบิดา มารดา ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการและผู้มีพระคุณ
2. การขึ้นพรหม ประกอบด้วย การขึ้นพรหมนั่ง และการขึ้นพรหมยืน 

         2.1 การขึ้นพรหมนั่ง ได้แก่อ่านเพิ่มเติม

กระบี่กระบอง

การเล่นกระบี่กระบองเป็นพื้นฐานเบื้องต้นส่วนหนึ่งของศิลปะการต่อสู้ของไทย ที่เรียกว่า กระบี่กระบอง เพราะเป็นกีฬาที่บรรพบุรุษไทยนำเอาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยอาวุธที่ใช้สู้รบกันในสมัยโบราณ มาฝึกซ้อมและเล่นในยามสงบ โดยนำหวายมาทำเป็นกระบี่ ดาบ ง้าว ฯลฯ เอาหนังมาทำโล่ เขน ดั้ง ฯลฯ แล้วจัดมาตีต่อสู้กันเล่นหรือแข่งขันกันเป็นคู่ ๆ ดุจสู้กันในสนามรบเป็นการฝึกหัดรุกและรับไปในตัว
  
         อย่างไรก็ตาม ประวัติเริ่มต้นของการเล่นกระบี่กระบองที่แท้จริงนั้นไม่ทราบได้แน่ชัดว่า เริ่มกันมาตั้งแต่ครั้งไหน และใครเป็นผู้คิดค้นขึ้น เพราะไม่สามารถค้นคว้าจากแหล่งใดได้ แต่เนื่องด้วยไทยเราเป็นชาตินักรบมาแต่โบราณ กระบี่กระบองซึ่งเป็นกีฬาของนักรบจึงน่าจะได้มีการเล่นกันมาเป็นเวลาช้านานควบคู่กับชนชาติไทย ในสมัยรัตนโกสินทร์มีหลักฐานที่พออ้างอิงได้คือ วรรณคดี ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 2 ในพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนา กล่าวถึงอิเหนาชำนาญในการกระบี่ ในรัชกาลที่ 3 สุนทรภู่แต่งเรื่องพระอภัยมณี กล่าวถึงศรีสุวรรณเล่าเรื่องกระบี่กระบองกับอาจารย์ทิศาปาโมกข์

         ต่อมาในรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดปรานกระบี่กระบองเป็นพิเศษ ถึงกับโปรดให้อ่านเพิ่มเติม